วันอังคารที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2553

จะอ่านหนังสือวิชาการเกียวกับหุ้นอย่างไร?

จะอ่านหนังสือวิชาการเกียวกับหุ้นอย่างไร?

การหาข้อมูลการประกอบการของแต่ละบริษัท โดยละเอียดจากตลาดหลักทรัพย์

                บางทีลำพังแต่การอ่านหนังสือพิมพ์หรือวารสาร  อาจจะไม่สามารถสนองความรู้เกี่ยวกับหุ้นให้เพียงพอได้  แต่ต้องการความรู้ที่ลึกซึ้งไปอีก  คนที่ต้องการศึกษาเรื่องหุ้นในเชิงวิชาการ  ที่ลึกซึ้งลงไปนั้นอาจแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มคือ
กลุ่มที่ 1 ได้แก่  คนที่ต้องการเข้าใจสภาพการเงินของบริษัท
กลุ่มที่ 2 ได้แก่  คนที่ต้องการรู้ข้อมูลราคาหุ้น  เช่น  การออกผลิตภัณฑ์ใหม่,  การใช้เทคโนโลยีแบบใหม่  เป็นต้น
กลุ่มที่ 3  ได้แก่  คนที่ต้องการศึกษาเทคนิคการลงทุน  เล่นหุ้นที่ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น

          คนในกลุ่มแรกที่ต้องการรู้ข้อมูลและเข้าใจสภาพการเงินของบริษัทนั้น  ควรจะต้องอ่านหนังสือความรู้พื้นฐานในด้านการบัญชี  เช่น  วิธีอ่านตารางงบดุลบัญชี,  การบริหารการบัญชี  เป็นต้น  เพื่อเป็นความรู้ในการศึกาสภาพการเงินของบริษัท  ซึ่งจะมีการรายงาน  เป็นตารางแบบต่างๆ  ออกมา  อาทิเช่น 
                ตารางแสดงภาวะหนี้สินของบริษัทฯ  จะเป็นตารางแสดงสภาวะการเงินของบริษัทในเวลาปิดงบดุลบัญชี  ตารางนี้จะบอกให้ทราบถึงความมั่นคงของบริษัท  ซึ่งเราอาจจะพิจารณาได้จากอัตราการลงทุน,  อัตราการชำระหนี้,  อัตราการหมุนเวียนของทุน  ได้ด้วย
                ตารางแสดงผลกำไรขาดทุน  เป็นตารางที่แสดงค่าผลกำไรขาดทุนสุทธิ  ที่ได้มาจากการเปรียบเทียบรายรับกับรายจ่ายของในแต่ปีงบดุล  ตารางนี้จะแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของผลกำไรขาดทุน สุทธิที่ผ่านมา  ดังนั้น  เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว  ตารางผลกำไรขาดทุนจะบอกให้ทราบถึงกำไรขาดทุนของบริษัทในลักษณะที่  เคลื่อนไหว  แต่ตารางแสดงภาวะหนี้สินจะแสดงกำไรขาดทุนในลักษณะที่  หยุดนิ่ง   ณ จุดเวลที่มีการปิดงบดุลของบริษัท
                ตารางการจัดสรรผลกำไร  เป็นตารางที่แสดงถึงการจัดสรรแบ่งปันผลกำไรของบริษัท  ผลกำไรที่จะนำเอามาแบ่งปันประกอบด้วย  ผลกำไรสะสมที่ยกยอดมาจากครั้งก่อน  รวมด้วยผลกำไรสุทธิของครั้งนี้  เมื่อนำเอาผลกำไรเหล่านี้มาแบ่งปันให้แก่ผู้ถือหุ้น  หรือหักมอบเป็นรางวัลแก่พนักงานผู้ปฏิบัติงานแล้ว  ผลกำไรส่วนที่เหลือก็จะถูกยกยอดกลายเป็นผลกำไรสะสมสำหรับครั้งต่อไป
                นอกจากนี้  ยังอาจมีตารางคำอธิบายผนวก  ซึ่งจะมีข้อมูลและข้อความอธิบายเพิ่มเติมสำหรับตารางต่างๆ  เพื่อให้ทราบรายละเอียดมากขึ้นอีกด้วย

                ตารางการเงินการบัญชีต่างๆ  เหล่านี้  โดยทั่วไปจะมีการประกาศแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบ  และจะต้องผ่านการเห็นชอบยอมรับจากที่ประชุมใหญ่ของผู้ถือหุ้น  กล่าวสำหรับผู้ถือหุ้นแล้ว  อาจจะอ่านข้อมูลได้จากหนังสือ  รายงานของบรัทที่แจ้งมาก็ได้แล้ว  ส่วนผู้ที่ไม่ได้ถือหุ้น  แต่ต้องการจะทราบข้อมูลการประกอบกิจการของบริษัท   เหล่านี้ก็อาจจะติดต่อขออ่านได้จากตลาดหลักทรัพย์  ซึ่งจะมีข้อมูลแนะนำเกี่ยวกับสภาพการณ์ทั่วไปของบริษัท,  ภาวะทางการเงิน,  การบริหารดำเนินการ ฯลฯ  ที่มีเนื้อหาละเอียดมากกว่าตารางงบดุลบัญชี  ผู้ที่ต้องการเล่นหุ้นก็สามารถจะอาศัยข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์  เพื่อให้สามารถเข้าในสภาพการณ์ของบริษัท  ได้ละเอียดลึกซึ้งมากขึ้น  อย่างไรก็ตาม  บริษัทอาจจะมีการตกแต่งแก้ไขตัวเลขในบัญชีเพื่อปกปิดบิดเบือนสภาพการณ์ที่แท้จริงก็ได้  และถ้าหากว่าเป็นเช่นนั้นจริง  ไม่ว่าจะวิเคราะห์ตัวเลขจากตารางอย่างไร
มันก็ย่อมไม่มีทางที่จะทราบข้อเท็จจริงได้  นี่คือข้อจำกัดของการวิเคราะห์ภาวะทางการเงินจากตารางเหล่านี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น