สาเหตุของความพ่ายแพ้ในการเล่นหุ้นอยู่ตรงไหน ?
คนที่เก็บหุ้นไม่อยู่มักจะต้องพ่ายแพ้
ถ้าหากรู้ว่าจะขาดทุนเสียก่อน รับรองได้ว่าไม่มีใครคนไหนยอมซื้อหุ้นเป็นอันขาด คนเล่นหุ้นทุกคนย่อมหวังว่าตนเองจะได้กำไร แต่ผลลัพธ์การลงทุนของแต่ละคนที่ปรากฎออกมากลับสามารถแตกต่างกันได้ราวฟ้าและดิน ต่อไปนี้คือตัวอย่างของผู้ที่พ่ายแพ้
คุณ C เป็นแม่บ้านมีประสบการณ์ในการเล่นหุ้นมาแล้ว 2 ปี โดยเริ่มต้นเล่นด้วยเงินทุนประมาณ 1 ล้านเหรียญ ภายในเวลา 2 ปีนี้เธอขาดทุนไปแล้วถึง 3 แสนเหรียญ คงเหลือทุนอยู่เพียงแค่ 7 แสนเหรียญเท่านั้น สาเหตุสำคัญที่ทำให้เธอพ่ายแพ้อยู่ที่ว่า เธอไม่สามารถจะสร้างวิธีคิดของตัวเองขึ้นมาได้ หากแปรเปลี่ยนไปตามคนรอบข้างอยู่แทบทุกขณะ ในเวลาที่หุ้นราคาตกเธอซื้อหุ้นเก็บเอาไว้ แต่ต่อมาก็รู้สึกร้อนใจว่าทำไมไม่เห็นหุ้นขึ้นราคา เลยเปลี่ยนไปซื้อ “หุ้นร้อน” แทน เธอไม่คิดเลยว่าหุ้นที่ตัวเองเพิ่งจะขายทิ้งไปนั้นกลับมีราคาสูงขึ้น ส่วนหุ้นร้อนที่เพิ่งจะซื้อมาใหม่กลับตกฮวบฮาบลงไป นอกจากนี้บางครั้งเธอก็เลือกลงทุนซื้อหุ้นที่ดูว่าดีเอาไว้แล้ว แต่พอเห็นราคามันตกลงไปนิดหน่อยก็ใจไม่ค่อยดี ผลสุดท้ายเลยต้องขายทิ้งไปในราคาที่ต่ำที่สุด มาถึงวันนี้คุณ C ได้เปลี่ยนความคิดใหม่แล้ว นั่นคือจะต้อง “ซื้อถูกขายแพง” เท่านั้น ขณะนี้เธอถือหุ้นเอาไว้หลายประเภทกิจการ ย่อมไม่มีทางขาดทุนไปเสียทั้งหมดเป็นแน่ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเธอก็คือ ต้องมีความอดทนเก็บหุ้นเอาไว้ให้ได้
คุณ D มีอาชีพเป็นแพทย์ ในปี 1983 มีพนักงานบริษัทหลักทรัพย์ มาชวนให้เล่นหุ้น เขาจึงตัดสินใจลงทุน เนื่องจากงานอาชีพยุ่งมาก คุณ D จึงได้มอบอำนาจให้ตัวแทนจากบรัทหลักทรัพย์ทำหน้าที่จัดการแทนทั้งหมด ในวันหนึ่งคุณ D พบว่าลงทุนมาแล้ว 3 ปีขาดทุนไปแล้ว 3 ล้านเหรียญ เงินทุนเริ่มต้นที่มีอยู่ 5 ล้านเหรียญในตอนนี้ กลับเหลืออยู่ไม่ถึงครึ่ง สภาพของคุณ D เช่นนิ้ เป็นผลมาจากการที่มอบอำนาจให้ตัวแทนบริษัทโบรกเกอร์จัดการแทนทั้งหมด มาตั้งแต่เริ่มแรก กระทั่งการซื้อหุ้นขายหุ้นด้วยเงินเชื่อ คุณ D ก็ยังยอมตกลงไปโดยไม่รู้สถานการณ์อะไรเลย ถึงแม้ว่าขณะนี้จำนวนการซื้อขายจะลดน้อยลงแต่ คุณ D ก็ยังสรุปออกมาไม่ได้เลยว่า นี่คือบทเรียนแห่งประสบการณ์การเล่นหุ้นของตัวเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น