จะอ่านหนังสือวิชาการเกียวกับหุ้นอย่างไร?
READ MORE - จะอ่านหนังสือวิชาการเกียวกับหุ้นอย่างไร?
การหาข้อมูลการประกอบการของแต่ละบริษัท โดยละเอียดจากตลาดหลักทรัพย์
บางทีลำพังแต่การอ่านหนังสือพิมพ์หรือวารสาร อาจจะไม่สามารถสนองความรู้เกี่ยวกับหุ้นให้เพียงพอได้ แต่ต้องการความรู้ที่ลึกซึ้งไปอีก คนที่ต้องการศึกษาเรื่องหุ้นในเชิงวิชาการ ที่ลึกซึ้งลงไปนั้นอาจแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มคือ
กลุ่มที่ 1 ได้แก่ คนที่ต้องการเข้าใจสภาพการเงินของบริษัท
กลุ่มที่ 2 ได้แก่ คนที่ต้องการรู้ข้อมูลราคาหุ้น เช่น การออกผลิตภัณฑ์ใหม่, การใช้เทคโนโลยีแบบใหม่ เป็นต้น
กลุ่มที่ 3 ได้แก่ คนที่ต้องการศึกษาเทคนิคการลงทุน เล่นหุ้นที่ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น
คนในกลุ่มแรกที่ต้องการรู้ข้อมูลและเข้าใจสภาพการเงินของบริษัทนั้น ควรจะต้องอ่านหนังสือความรู้พื้นฐานในด้านการบัญชี เช่น วิธีอ่านตารางงบดุลบัญชี, การบริหารการบัญชี เป็นต้น เพื่อเป็นความรู้ในการศึกาสภาพการเงินของบริษัท ซึ่งจะมีการรายงาน เป็นตารางแบบต่างๆ ออกมา อาทิเช่น
ตารางแสดงภาวะหนี้สินของบริษัทฯ จะเป็นตารางแสดงสภาวะการเงินของบริษัทในเวลาปิดงบดุลบัญชี ตารางนี้จะบอกให้ทราบถึงความมั่นคงของบริษัท ซึ่งเราอาจจะพิจารณาได้จากอัตราการลงทุน, อัตราการชำระหนี้, อัตราการหมุนเวียนของทุน ได้ด้วย
ตารางแสดงผลกำไรขาดทุน เป็นตารางที่แสดงค่าผลกำไรขาดทุนสุทธิ ที่ได้มาจากการเปรียบเทียบรายรับกับรายจ่ายของในแต่ปีงบดุล ตารางนี้จะแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของผลกำไรขาดทุน สุทธิที่ผ่านมา ดังนั้น เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ตารางผลกำไรขาดทุนจะบอกให้ทราบถึงกำไรขาดทุนของบริษัทในลักษณะที่ “เคลื่อนไหว” แต่ตารางแสดงภาวะหนี้สินจะแสดงกำไรขาดทุนในลักษณะที่ “หยุดนิ่ง” ณ จุดเวลที่มีการปิดงบดุลของบริษัท
ตารางการจัดสรรผลกำไร เป็นตารางที่แสดงถึงการจัดสรรแบ่งปันผลกำไรของบริษัท ผลกำไรที่จะนำเอามาแบ่งปันประกอบด้วย ผลกำไรสะสมที่ยกยอดมาจากครั้งก่อน รวมด้วยผลกำไรสุทธิของครั้งนี้ เมื่อนำเอาผลกำไรเหล่านี้มาแบ่งปันให้แก่ผู้ถือหุ้น หรือหักมอบเป็นรางวัลแก่พนักงานผู้ปฏิบัติงานแล้ว ผลกำไรส่วนที่เหลือก็จะถูกยกยอดกลายเป็นผลกำไรสะสมสำหรับครั้งต่อไป
นอกจากนี้ ยังอาจมีตารางคำอธิบายผนวก ซึ่งจะมีข้อมูลและข้อความอธิบายเพิ่มเติมสำหรับตารางต่างๆ เพื่อให้ทราบรายละเอียดมากขึ้นอีกด้วย
ตารางการเงินการบัญชีต่างๆ เหล่านี้ โดยทั่วไปจะมีการประกาศแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบ และจะต้องผ่านการเห็นชอบยอมรับจากที่ประชุมใหญ่ของผู้ถือหุ้น กล่าวสำหรับผู้ถือหุ้นแล้ว อาจจะอ่านข้อมูลได้จากหนังสือ รายงานของบรัทที่แจ้งมาก็ได้แล้ว ส่วนผู้ที่ไม่ได้ถือหุ้น แต่ต้องการจะทราบข้อมูลการประกอบกิจการของบริษัท เหล่านี้ก็อาจจะติดต่อขออ่านได้จากตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจะมีข้อมูลแนะนำเกี่ยวกับสภาพการณ์ทั่วไปของบริษัท, ภาวะทางการเงิน, การบริหารดำเนินการ ฯลฯ ที่มีเนื้อหาละเอียดมากกว่าตารางงบดุลบัญชี ผู้ที่ต้องการเล่นหุ้นก็สามารถจะอาศัยข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์ เพื่อให้สามารถเข้าในสภาพการณ์ของบริษัท ได้ละเอียดลึกซึ้งมากขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจจะมีการตกแต่งแก้ไขตัวเลขในบัญชีเพื่อปกปิดบิดเบือนสภาพการณ์ที่แท้จริงก็ได้ และถ้าหากว่าเป็นเช่นนั้นจริง ไม่ว่าจะวิเคราะห์ตัวเลขจากตารางอย่างไร
มันก็ย่อมไม่มีทางที่จะทราบข้อเท็จจริงได้ นี่คือข้อจำกัดของการวิเคราะห์ภาวะทางการเงินจากตารางเหล่านี้