วันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

หุ้น ต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง


หุ้น ต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง

การไม่เข้าใจกฎเกณฑ์ในการเล่นหุ้นนั้นเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง สุภาพสตรีผู้หนึ่งมีบทเรียนเล่าว่า มีพนักงานบริษัทหลักทรัพย์คนหนึ่งมาชักชวนให้เธอเล่นหุ้น เธอจึงลงทุนเล่นไปหนึ่งล้านเหรียญโดยมอบหมายให้พนักงานผู้นั้นจัดการแทนทุกอย่าง ในวันต่อมามีเอกสารส่งมาทางไปรษณีย์ให้แก่เธอมากมายจนเธอรู้สึกว่า มันเป็นเรื่องที่ยุ่งเหลือเกิน เวลาผ่านไปครึ่งปี เธอเกิดต้องการใช้เงินจึงบอกให้พนักงานผู้นั้นขายหุ้นทั้งหมด ผลปรากฏว่า ขายได้เพียงห้าแสนเหรียญเท่านั้น ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้นะ? “ฉันจ่ายเงินลงทุนไปถึงหนึ่งล้าน แต่อีกฝ่ายกลับบอกว่าขายหุ้นขาดทุน ถึงแม้จะมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันอย่างหนัก แต่มันก็แก้ไขไม่ได้เสียแล้ว”
สุภาพสตรีผู้นี้เริ่มต้นก็เดินผิดพลาดเสียแล้ว เพราะว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเล่นหุ้นคือ “เราต้องเป็นผู้พิจารณาและเป็นผู้ตัดสินใจเองเท่านั้น”
ยกตัวอย่างอีกเรื่อง ชายคนหนึ่งหลังจากปลดเกษียณทำงานแล้ว ถูกบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่งพูดจาหว่านล้อมให้นำเอาเงินที่ได้จากการปลดเกษียณมาลงทุนเล่นหุ้น ตลาดหุ้นขณะนั้นกำลังคึกคัก ดัชนีราคาหุ้นมีแต่เพิ่มสูงขึ้น ชายคนนี้เล่นอย่างสนุกสนาน บางครั้งก็กำไร บางครั้งก็ขาดทุน หนึ่งปีผ่านพ้นไป เมื่อคิดบัญชีรวมแล้วกลับกลายเป็นขาดทุนไปเสียแล้ว
ความผิดพลาดของชายผู้นี้อยู่ที่ว่าซื้อขายหุ้นบ่อยเกินไป เปรียบเหมือนกับการขับรถ หากคนที่เพิ่งหัดขับ คิดขับรถแบบนักแข่ง นั่นก็ยากที่จะไม่เกิดอุบัติเหตุขึ้นมา การซื้อขายหุ้นก็เป็นในทำนองเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้านำเอาเงินที่เป็นค่าใช้จ่ายในบั้นปลายชีวิตมาเล่น เมื่อมองด้วยสายตายาวไกลแล้ว เขาควรจะค่อยๆลงทุน แม้ว่าเขาจะตัดสินในขั้นสุดท้ายด้วยตัวเอง แต่เขาก็ยังตัดสินโดยอาศัยคำแนะนำของพนักงานบริษัทหลักทรัพย์อยู่ ซึ่งเหมือนกับการฝากให้ผู้อื่นจัดการแทนตัวเองนั่นแหละ เขาได้ลืมหลักการพื้นฐานในการเล่นหุ้นไปเสียแล้ว
คนที่อยู่นอกวงการก็ควรจะค่อยๆเล่นตามวิธีการที่เหมาะกับคนนอกวงการ เพราะถ้าเดินผิดพลาดแล้ว ย่อมเกิดผลเสียหายหนักขึ้นได้  จากสถิติในรอบหลายปีที่ผ่านมา มันแสดงให้เราเห็นได้ว่า ถ้าถือหุ้นเอาไว้ในมือ 3 ปี ร้อยละ 70 ของหุ้นจะมีการเพิ่มราคา และถ้าถือเอาไว้ 10 ปี มันก็จะมีหุ้นที่เพิ่มราคาสูงขึ้นไปเกือบถึงร้อยละ 95 ผู้ที่พึ่งเริ่มต้น จึงไม่ควรไล่คว้าหาเศษกำไรเล็กๆน้อยๆเหมือนพวกมืออาชีพและห้ามเล่นหุ้นด้วยเงินเชื่อเป็นอันขาด
ดังได้กล่าวมาแล้วว่า การซื้อขายแลกเปลี่ยนหุ้นนั้นดำเนินการโดยตลาดหลักทรัพย์ อย่างไรก็ตาม บริษัทบางแห่งดูผิวเผินก็คล้ายกับเป็นบริษัทหลักทรัพย์ หรืออาจมีการโฆษณาเรียกลูกค้าต่างๆ เช่น “เพียงแค่ออกเงิน บริษัทเป็นผู้จัดการ คุณก็จะได้รับกำไร” “รับกำไรทวีคูณ” ฯลฯ คำหวานเหล่านี้ กระทั่งผู้ที่ไม่ใช่เป็นมือใหม่ก็ยังอดตื่นเต้นไม่ได้ “การรับเหมา” ทำแทนแบบนี้ เป็นวิธีการที่ผิดไปจากการลงทุนที่ถูกต้องเป็นอย่างมาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น